ปูนกาว หรือ กาวซีเมนต์ คือ ซีเมนต์ผสมสารยึดเกาะ มีหน้าที่ยึดประสานระหว่างพื้นผิวกับกระเบื้อง ปูนกาวประกอบด้วย ปูน ทราย กาว(สารเพิ่มการยึดเกาะ) และ สารเติมแต่งอื่นๆ ปูนกาวมีการยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดีกว่าการปูกระเบื้องแบบเก่า ที่ใช้ ปูนทราย หรือ ปูนดำในการปู ไม่จำเป็นต้องนำกระเบื้องแช่น้ำก่อนการปู
ปัจจุบัน ปูนกาวในตลาดบ้านเรามีหลากหลายแบรนด์ แต่ละแบรนด์ มีหลายรุ่น ทำให้เกิดการสับสน ว่าจะใช้ปูนกาวแบรนด์ไหน รุ่นอะไร จึงจะเหมาะกับงานและงบประมาณที่ตั้งไว้ จึงขอแบ่งเป็นข้อๆดังนี้
- ขนาดกระเบื้อง เล็กกว่าหรือเท่ากับ 30x30 ซม. ปูพื้นและผนัง แนะนำให้ใช้ ปูนกาวจระเข้ฟ้า , ปูนกาวจระเข้เขียว , เวเบอร์ไทล์เซ็ม , เวเบอร์ไทล์ฟิกซ์
- ขนาดกระเบื้อง ใหญ่กว่า 30x30 ซม. ปูกระเบื้องพื้น หรือปูกระเบื้องสระว่ายน้ำ แนะนำให้ใช้ปูนกาวจระเข้แดง , เวเบอร์ไทล์เกรซ
- ขนาดกระเบื้อง ใหญ่กว่า 30x30 ซม. ปูกระเบื้องผนัง แนะนำให้ใช้ ปูนกาวจระเข้เงิน , เวเบอร์ไทล์เกรซ
- ปูหินธรรมชาติ , ปูทับกระเบื้องเดิม หรือปูกระเบื้องภายนอกอาคารสูง แนะนำให้ใช้ ปูนกาวจระเข้ทอง , เวเบอร์ไทล์เฟล็กซ์
- หินธรรมชาติ ปูภายนอกอาคารป้องกันการเกิดคราบขาว แนะนำให้ใช้ จระเนเชอรัลสโตนเมท , เวเบอร์ไทล์โนสโตน
b. พื้นผิวที่จะใช้ปูกระเบื้อง เช่น พื้นผิวปูนซีเมนต์ พื้นผิวกระเบื้องเก่า พื้นผิวแผ่นซีเมนต์บอร์ด หรือปูทับพื้นผิวกระเบื้องเดิม พื้นผิวแต่ละชนิดต้องใช้ปูนกาวที่มีความเหนียวแตกต่างกัน
c. กระเบื้องและขนาด เช่น ขนาด 4x4” 6x6” 12x12” 24x24” หรือขนาดอื่นๆ กระเบื้องยิ่งขนาดใหญ่ ยิ่งต้องใช้ปูนกาวที่มีการยึดเกาะสูง หรือกระเบื้องโมเสคแก้ว ควรเลือกใช้ปูนกาวที่มีผงสีขาวเพื่อให้กระเบื้องสะท้อนพื้นผิวสวยงาม
2. เปรียบเทียบคุณสมบัติปูนกาวกับลักษณะงานของเรา ปูนกาวแต่ละแบรนด์ได้ให้คำจำกัดการใช้งานในแต่ละรุ่นผลิตภัณฑ์ของตนเองไว้อย่างละเอียดแล้ว ว่าแต่ละรุ่นสามารถปูกระเบื้อง หน้างานแบบไหน ขนาดสูงสุดเท่าไร และ พื้นผิวอะไรไว้ครบถ้วน เราสามารถทำการเปรียบเทียบและตัดสินใจสั่งซื้อ
หน้างานที่จะต้องการปูกระเบื้องด้วยปูนกาว จะต้องทำการปรับระดับ ให้เรียบและได้ระนาบตามที่ต้องการ เพราะปูนกาวที่ใช้ในการปูกระเบื้องจะมีความหนาเพียง 3มม.-1ซม. การปูกระเบื้องไป ปรับระดับไปเหมือนการปูกระเบื้องด้วยปูนทราย จะทำให้สิ้นเปลืองค่าวัสดุปูนกาวมาก และ ยังทำให้การยึดเกาะปูนกาวลดลงเนื่องจากกระปูนกาวที่หนาเกินไป
1. ให้ล้างทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาดปราศจากฝั่นและเศษปูน ก่อนการปูกระเบื้อง
2. ทำการตั้งแนวระยะ ระดับ และจัดลวดลายแพทเทิร์น (กรณีกระเบื้องมีลายต่อเนื่อง) ก่อนเริ่มการฉาบปูนกาว
3. ผสมปูนกาวกับน้ำตามอัตราส่วนผสมข้างถุง(บรรจุภัณฑ์) โดยเทน้ำลงภาชนะผสมก่อน จึงเทปูนตามลงไป แล้วจึงผสมให้เข้ากัน แนะนำให้ใช้หัวปั่นปูน (หัวปั่นสี) ที่ต่อกับสว่าน ปั่นผสมเพื่อจะได้เป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อผสมแล้วหากใช้งานไม่ทันปูนกาวเริ่มแห้งในภาชนะ ไม่ควรเติมน้ำเพิ่ม ควรจะทิ้งและเริ่มผสมใหม่
4. ฉาบปูนกาวที่พื้นผิวที่ต้องการจะปูกระเบื้องด้วยเกรียงหวี ด้านเรียบ และไฮไลท์ปูนกาวให้เป็นร่องด้วยด้านหวี กระเบื้องแต่ละขนาดต้องใช้เกรียงหวีแตกต่างกัน และเกรียงหวีแต่ละขนาดมีผลต่ออัตราการสิ้นเปลืองปูนกาว ควรฉาบปูนกาวให้พอที่จะปูกระเบื้องในแต่ละครั้ง
· เกรียงหวี ขนาด 3 x
3 มม.
ใช้กับกระเบื้องขนาดเล็ก กระเบื้องโมเสก โมเสกแก้ว ขนาด 1 x 1 นิ้ว , 2 x 2 นิ้ว
กาวซีเมนต์ 20 กก. ปูได้พื้นที่ 7-8 ตร.ม.
· เกรียงหวี ขนาด 6 x 6 มม.
ใช้กับกระเบื้องเซรามิค ขนาด 4 x 4 นิ้ว ถึง 12 x
12 นิ้ว
กาวซีเมนต์ 20 กก. ปูได้พื้นที่ 5-6 ตร.ม.
· เกรียงหวี ขนาด 10 x 10 มม.
แกรนิตโต้ หินแกรนิต หินอ่อน ใช้กับกระเบื้องขนาดใหญ่ตั้งแต่ 16 x 16 นิ้วขึ้นไป
กาวซีเมนต์ 20 กก. ปูได้พื้นที่ 2-3 ตร.ม.
5. ปูกระเบื้องบนปูนกาวที่ได้ไฮไลท์ไว้พร้อมจัดแนวกระเบื้องให้ตรงแนวและได้ระดับ อาจจะใช้ตัวจัดกระเบื้องในการช่วยจัดระยะให้กระเบื้องเว้นระยะสวยงามเรียบร้อย การจัดระยะควรเริ่มจัดระยะให้เสร็จภายใน 15 นาทีก่อนปูนกาวจะเซ็ตตัว
6. บ่มปูนกาว 24ชม. – 48ชม. ตามข้อแนะนำข้างบรรจุภัณฑ์ให้ครบตามเวลา ก่อนการยาแนว
*สั่งซื้อปูนกาวเกิน 150 ถุง โทรหาเรา รับส่วนลดเพิ่ม